ทีมยอดเยี่ยมโกปา อเมริกา 2015

โกปา อเมริกา 2015

สวัสดีครับเพื่อนๆนักแทงบอลหรือแทงบอลออนไลน์ทุกๆคนครับ โกปา อเมริกา 2015 จบด้วยความสำเร็จของเจ้าภาพอย่างชิลี ที่ชูถ้วยแชมป์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์หลังดวลเป้าชนะอาร์เจนตินา ในรอบชิงชนะเลิก
หากมาองย้อนกลับไปตลอด 26 นัดในช่วงเวลาร่วมเดือน แน่นอนต้องมองถึงความสามารถส่วนตัวที่แสดงออกมา รวมทั้งการมีส่วนร่วมในการพาทีมสู่ความสำเร็จ ดังนั้นอาจไม่น่าแปลกใจที่จะมีสมาชิกจากทีมแชมป์ และรองแชมป์หลายคนอยู่ในทีม
และนี่คือทีมยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ 
ผู้รักษาประตู
เคลาดิโอ บราโว่ (ชิลี)
เขาอาจไม่ใช่นายทวารที่เสียประตูน้อยสุดในทัวร์นาเมนต์
แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความเหนียวหนึบของเคลาดิโอ บราโว่ เป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญที่พาซิลี สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์รายการเมเจอร์ครั้งแรกของวงการลูกหนังประเทศ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในนัดชิงชนะเลิศกับอาร์เจนตินา
หลายคนยังจำติดตาชอตจังหวะป้องกันนลูกโหม่งจ่อๆ ของเซร์คิโอ อเกวโร่ “กุน” ทว่าจุดสำคัญที่สุดคือการป้องกันลูกจุดโทษของ เอเวร์ บาเนก้า ในช่วงดวลเป้า อันเป็นเหมือการลดความกดดันใน อเล็กซิส ซานเซซ ยิงปิดกล่อง
กองหลัง 
นิโกลัส โอตาเมนดี้ (อาร์เจนตินา)

ตลอดทัวร์นาเมนต์ นิโกลัส โอตาเมนดี้ ทำผลงานอย่างยอดเยี่ยม ไม่เว้นแม้แต่นัดชิงชนะเลิศที่สามารถพาทีมรักษาคลีนชีต
ปราการหลังจากบาเลนเซีย อาจมีผลงานไม่ดีนักในเกมนัดแรกของทัวร์นาเมนต์ แต่หลังจากนั้นเขาเริ่มฉายแววที่เคยแสดงให้เห็นในการเล่นระดับสโมสรเมื่อฤดูกาลก่อน
การตัดบอลทั้งบนพื้น และลูกกลางอากาศเป็นจุดเด่นของอาร์เจนตินา เสียประตูยาก
ตลอดทัวร์นาเมนต์ทีมฟ้า – ขาว รักษาคลีนชีตได้ถึง 4 จาก 6 นัด เสียประตูแค่นัดเดียวเท่านั้นระหว่างทัวร์นาเมนต์ซึ่งโอตาเมนดี้ คือส่วนสำคัญ
การี่ เมเดล (ชิลี)
ความดุดัน, การประกบติดคู่แข่งอย่างยอดเยี่ยมและผลงานอันสม่ำเสมอไม่มีติดขัด นี่คือคำจำกัดความของดาวเตะรายนี้ยามรับใช้ทีมชาติ ซึ่งในทัวร์นาเมนต์นี้เขาไม่ทำให้ทีมผิดหวังแต่อย่างใด
เมเดล โชว์ฟอร์มอย่างยอดเยี่ยมในแดงหลัง การเอาชนะคู่แข่งด้วยการเข้าปะทะที่หนักหน่วง แต่แฟร์ๆ กลายเป็นจุดสำคัญให้ชิลี ก้าวสู่ความสำเร็จ
การหยุดยั้งการเล่นของ ลิโอเนล เมสซี่ ในนัดชิงชนะเลิศ ช่างทำได้อย่างดุดัน แม้จะสุ่มเสี่ยงต่อการโดยในแดง นอกจากนั้นแล้วการประกบติด เซร์คิโอ อเกวโร่ “กุน” คู่ควรให้เขาได้เหรียญแชมป์
เฮยซอน มูรีโย่ (โคลอมเบีย)
แม้ทีมจะจอดป้ายแค่รอบก่อนรองชนะเลิศด้วยการพ่ายการดวลลูกโทษให้กับอาร์เจนตินา
ทว่าตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ ปราการหลังกรานาด้าที่เพิ่งเซ็นสัญญาย้ายไปอยู่กับอินเตอร์ มิลาน เล่นได้อย่างแข็งแกร่ง นอกจากนั้นแล้ว ยังมีทีเด็ดในการเติมเกมขึ้นไปยิงประตูได้ด้วย
ด้วยวัยแค่ 23 ปี เขาสามารถพัฒนาศักยภาพขึ้นไปได้อีก และจะกลายเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติโคลอมเบียในอนาคต
กองกลาง     
ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ (อาร์เจนตินา)
กองกลางตัวคุมจังหวะเกมเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากฮาเวียร์ มาสเคราโน่
เขามีส่วนสำคัญในการตัดเกมแดนกลาง และช่วยให้งานของแนวรับลดน้อยลง เขาวิ่งขึ้นลงทั้งหน้ากรอบเขตโทษตัวเองไปจนถึงแดนคู่แข่ง และสามารถควบคุมพื้นที่เอาไว้ทั้งหมด
หากคิดว่าเกมบุกของอาร์เจนตินา ทำได้ดี จุดหนึ่งเป็นเพราะตรงกลางสนามสามารถคุมจังหวะได้ดี น่าเสียดายนี่เป็นอีกครั้งที่มาสเคราโน่ ต้องผิดหวังไปไม่ถึงความสำเร็จทั้งๆ ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นก็ตาม                       อาร์ตูโร่ วิดา (ชิลี)
อาร์ตูโร่ วิดาล สร้างความปั่นป่วนให้ทีมระหว่างการเล่นช่วงต้นทัวร์นาเมนต์ เมื่อเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์
ทว่าหลังจากนั้น เขากลับมาเป็นกำลังสำคัญของทีม ในการคุมแดนกลางได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งการคุมเกมรุกและรับอย่างลงตัว จนได้เหรียญรางวัลแชมป์มาคล้องคอสำเร็จ
วิดาล ยิงลูกโทษในนัดชิงชนะเลิศอย่างเลือดเย็นพร้อมทั้งจบทัวร์นาเมนต์ด้วยการซัดไปทั้งหมด 3 ประตู
มาร์เซโล่ ดิอาซ (ชิลี)
นี่เป็นอีกหนึ่งดาวเตะที่ช่วยคุมจังหวะเกมแดนกลางให้ทีมแชมป์อย่างชิลี
เขาไม่เพียงมีเกมรับที่เหนียวแน่น แต่ยังสามารถติดเกมบุกริมเส้นได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการสลับตำแหน่งกับอาร์ตูโร่ วิดาล อย่างลงตัว
ประสบการณ์การเล่นฟุตบอลยุโรปตั้งแต่กับบาเซิ่ลช่วยพัฒนาศักยภาพของตัวเขาขึ้นมาอย่างมาก จนไม่น่าสงสัยเลยว่าที่สุดแล้วกลายมาเป็นสมาชิกใหม่ของฮัมบูร์ก ที่มาพร้อมกับเหรียญแชมป์ห้อยคอ                              คริสเตียน กูเอว่า (เปรู)
ไม่มีใครคาดคิดว่าเปรู จะมาได้ไกลถึงอันดับ 3 ของทัวร์นาเมนต์
แม้มีเสียงค่อนแคะถึงเกมบุกที่ต้องหวังพึ่งนักเตะมากประสบการณ์ทั้งหลาย ทว่าจุดสำคัญคือเกมแดนกลางที่นำโดยบรรดาแข้งสายเลือดใหม่ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ คริสเตียน กูเอว่า
เขาคอยเจาะทำเกมริมเส้น และมีลูกเปิดอันยอดเยี่ยมจนสร้างความอันตรายให้เกมรับของคู่แข่ง
กองหน้า           
ลิโอเนล เมสซี่ (อาร์เจนตินา)
นี่เป็นอีกครั้งแล้วที่เกิดขึ้นกับ ลิโอเนล เมสซี่ เขาพาอาร์เจนตินา พ่ายในนัดชิงชนะเลิศเป็นครั้งที่ 3 จาก 4 นัดหลัง อีกทั้งยังมีผลงานอันไม่น่าประทับใจตลอด 120 เกมที่ซานติอาโก้
ช่างคล้ายคลึงกับอังเคล ดิ มาเรีย ผลงานในรอบรองชนะเลิศกับปารากวัย ช่างทำได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการจ่ายบอล รวมทั้งการพาบอลหนีคู่แข่งจนสามารถทำไป 3 แอสซิสต์
ทว่าสิ่งเหล่านั้นกลับหายไปในนัดชิงชนะเลิศ เมื่อเมสซี่ โดนประกบหนักจนไม่อาจจะหนีออก แม้จะยิงลูกโทษเข้าไป แต่ฟอร์มของเพื่อนร่วมทีมพาเขาไปไม่ถึงฝัน
เปาโล เกร์เรโร่ (เปรู)
           หนึ่งในดาวซัลโวร่วมของทัวร์นาเมนต์ โดย เปาโล เกร์เรโร่ เป็นความหวังในเกมบุกของเปรู และกลายเป็นคนที่พาทีมทะลุเข้ามาถึงรอบน็อกเอาต์
เกร์เรโร่ จัดการทำแฮตทริกแรก และแฮตทริกเดียวในทัวร์นาเมนต์เกมพบโบลิเวีย นอกจากนั้นแล้วยังยิงอีกหนึ่งประตูในนัดชิงอันดับ 3 กับปารากวัย จนทำไปทั้งหมด 4 ลูกในทัวร์นาเมนต์ ส่วน 4 ปีก่อนยิงไป 5 ประตู
การลงเล่นร่วมกับเคลาดิโอ ปิซาร์โร่ ช่วยให้เกร์เรโร่ มีพื้นที่มากขึ้น และแน่นอนผลงานแบบนี่ทำให้ได้อันดับ 3 มาปลอบใจ
เอดูอาร์โด้ วาร์กาส (ชิลี)
นักเตะรายสุดท้ายของทีมยอดเยี่ยมเป็นเอดูอาร์โด้ วาร์กาส ที่เอาชนะเซร์คิโอ อเกวโร่ “กุน”
วาร์กาส เป็นหนึ่งในนักเตะที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมสุดในรายการนี้ และเป็นอีกครั้งที่เขาระเบิดฟอร์มทำ 4 ประตูจนจบด้วยการเป็นดาวซัลโวร่วมกับเกร์เรโร่ หลังต่างยิงประตูได้ในรอบรองชนะเลลิซ                     การขึ้นเกมทางขวาเป็นจุดเด่นของเขา และเมื่อประสานงานอย่างลงตัวกับ อเล็กซิส ซานเซซ ช่วยให้วาร์กาสงัดฟอร์มอันยอดเยี่ยมออกมา ก่อนจบด้วยการมีเหรียญแชมป์คล้องคอ