ซีซั่นที่แล้วกลายเป็นฝันร้ายไปเลยสำหรับแฟนๆ ทีมหงส์แดงที่จู่ๆก็ต้องกลับไปจมปลักกันอยู่ในอารมณ์เดิมๆอีกแล้ว
ผลงานในซีซั่น 2013/14 เหมือนจะเป็นแค่ภาพลวงตา กับการจบด้วยตำแหน่งรองจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีก พร้อมซิวโควตาไปเล่นรายการยูฟ่า แชวเปี้ยนส์ ลีก แบบอัตโนมัติ แต่พอมาฤดูกาลล่าสุด ลิเวอร์พูลก็ประสบความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง เมื่อสามารถจบได้แค่อันดับ 6 เท่านั้น แถมยังเป็นการอำลา สตีเว่น เจอร์ราร์ด แบบสุดจืดชืด
อย่างไรก็ตาม เบรนแดน ร็อดเจอร์ส นายใหญ่ของทีม ยังคงได้รับความไว้วางใจจากบอร์ดบริหารในถิ่นแอนฟิลด์ให้ทำงานต่อไป โดยมีเป้าหมายที่จะพาทีมกลับไปเล่นถ้วยบิ๊กเอียร์ให้ได้อีกครั้ง
กุนชื่อชาวไอร์แลนด์เหนือจึงเร่งเสริมทัพเป็นการด่วนช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา และดูเหมือนว่าเขาจะมุ่งเน้นไปที่การโมดิฟายขุมกำลังในแนวรุกเป็นหลัก
การเสีย ราฮีม สเตอร์ลิง ไปให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถ้ามองดีๆ มันคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม กับการขายดาวเตะอายุน้อยที่มาฟอร์มตกในช่วงท้ายซีซั่นได้ด้วยค่าตัวถึง 44 ล้านปอนด์แถมได้ตัวสดใหม่อย่างโรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ , แดนนี่ อิงส์ และ คริสติย็อง เยนเตก้า เข้ามา
รายของเบนเตเก้ได้รับการคาดหมายว่าจะเข้ามาเป็นตัวหลักทันที นี่คือการเสริมทัพที่น่าสนใจมากๆของร็อดเจอร์ส แน่นอน ถ้าดูจากผลงานของหอกเบลเจี้ยนที่ยิงกระจุยกระจายกับแอสตัน วิลล่าเมื่อปลายฤดูกาลก่อน
สิ่งที่มันดีขึ้นทันตาเห็นของกองทัพเร้ด แมซีน ก็คือฟอร์มในช่วงปรีซีซั่นที่พวกเขามาทัวร์เอเชียรวมถึงประเทศไทยของเรา
แม้ว่าจะเจอกับทีมที่อ่อนชั้นกว่า แต่ลิเวอร์พูลก็โชว์ให้เห็นศักยภาพ และมาตรฐานที่สูงลิบลิ่ว จนตอนนี้ก็ยังไร้พ่ายมาตลอดซัมเมอร์
ซีซั่นนี้ชาว เดอะ ค็อป ก็ยังต้องติดตามกันต่อไปพร้อมภาวนาให้ทุกสิ่งทุกอย่างมันลงล็อคจนทีมกลับไปมีลุ้นแชมป์ลีกให้ได้
คำทำนาย ไปแชมเปี้ยนส์ ลีก
ข้อมูลทั่วไป
ชื่อเต็ม : ลิเวอร์พูล ฟุตบอล คลับ
ก่อตั้ง : ปี ค.ศ. 1892
ฉายา : หงส์แดง, เดอะ เร้ด
เจ้าของทีม : เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป
ประธานสโมสร : ทอม เวอร์เนอร์
ผู้จัดการทีม : เบรนแดน ร็อดเจอร์ส
ผู้ช่วยผู้จัดการทีม : ฌอน โอดริสโกลล์
สนามเหย้า : แอนฟิลด์ (45,276 ที่นั่ง)
เกียรติยศ
แชมป์ดิวิชั่น 1 เดิม (ปัจจุบันคือพรีเมียร์ลีก) : 1900-01 , 1905-06 , 1921-22 , 1922-23 , 1946-47 , 1963-64 , 1965-66 , 1972-73 , 1975-76 , 1976-77 , 1978-79 , 1979-80 , 1981-82 , 1982-83 , 1983-84 , 1985-86 , 1987-88 , 1989-90
แชมป์ดิวิชั่น 2 เดิม : 1893-94 , 1895-96 , 1904-05 , 1961-62
แชมป์เอฟเอ คัพ : 1964-65 , 1973-74 , 1985-86 , 1988-89 , 1991-92 , 2000-01 , 2005-06
แชมป์ลีก คัพ : 1980-81 , 1981-82 , 1982-83 , 1983-84 , 1994-95 2000-01 , 2002-03 , 2011-12
แชมป์แชริตี้ ซิลด์ : 1964* , 1965* , 1966 , 1974 , 1976 , 1977* , 1979 , 1980 , 1982 , 1986* , 1988 , 1989 , 1990* , 2001 , 2006 (*คือแชมป์ร่วม)
แชมป์แลงคาเชียร์ ลีก : 1892-93
แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก หรือยูโรเปี้ยน คัพ : 1976-77 , 1977-78, 1980-81 , 1983-84 , 2004-05
แชมป์ยูฟ่า ยูโรปา ลีก หรือยูฟ่า คัพ : 1972-73 , 1975-76 , 2000-01
แชมป์ยูฟ่า ซุปเปอร์ คัพ : 1977 , 2001 , 2005
สถิติสโมสร
ดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลในลีก 1 ฤดูกาล : โรเจอร์ ฮันท์ 41 ประตู 1961-62 ดิวิชั่น 2
ดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลในลีก : โรเจอร์ ฮันท์ 245 ประตู 1959-69
ลงเล่นมากที่สุด : เอียน คัลลาแฮน 640 นัด 1960-78
สถิติชนะสูงสุด : 10-1 พบ ร็อตเธอร์แฮม ทาวน์ 18/02/1896 ดิวิชั่น 2
สถิติแพ้สูงสุด : 1-9 พบ เบอร์มิงแฮม 11/12/1954 ดิวิชั่น 2
สถิติขายนักเตะแพงสุด : 75 ล้านปอนด์ หลุยส์ ซัวเรซ ไปบาร์เซโลน่า 11/07/2014
สถิติซื้อนักเตะแพงสุด : 35 ล้านปอนด์ แอนดี้ แคร์โรว์ จากนิวคาสเซิ่ล 31/01/2011
อันดับฤดูกาลที่แล้ว : 6
การซื้อ-ขายผู้เล่น ฤดูกาล 2015/16
ย้ายเข้า
โจ โกเมซ (3.5 ล้านปอนด์)…………………จากชาร์ลตัน
เจมส์ มิลเนอร์ (ฟรี)…………………………จากแมนฯ ซิตี้
แดนนี่ อิงส์ (ฟรี)……………………………….จากเบิร์นลี่ย์
อดัม บ็อกดาน (ฟรี)……………………………จากโบลตัน
โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ (21.3 ล้านปอนด์)..จากฮอฟเฟ่นไฮม์
เนธาเนียล ไคลน์ (10 ล้านปอนด์)……จากเซาธ์แฮมตัน
คริสติย็อง เบนเตเก้ (32.5 ล้านปอนด์)…จากแอสตัน วิลล่า
ย้ายออก
แบรด โจนส์ (ปล่อยตัว)…………………………….-
เกล็น จอห์นสัน (ฟรี)………………………..ไปโสต็ค
สตีเว่น เจอร์ราร์ด (ฟรี)………..ไปแอลเอ แกแลกซี่
เซบาสเตียน โกอาเตส (4 ล้านปอนด์) …ไปซันเดอร์แลนด์
ยาโก้ อัสปาส (5 ล้านปอนด์)……..ไปเซลต้า บีโก้
ฆาเบียร์ มานกีโย่ (ยกเลิกสัญญายืมตัว)ไปแอต.มาดริด
ราฮีม สเตอร์ลิง (44 ล้านปอนด์)………ไปแมนฯ ซิตี้
แดนนี่ วอร์ด (ยืมตัว)………………ไปอเบอร์ดีน
หลุยส์ อัลเบโต้ (ยืมตัว)………………….ไปลา กอรุนญ่า
จอร์แดน วิลเลี่ยมส์ (ยืมตัว)…………..ไปสวินดอน
อันเดร วิสตอม (ยืมตัว)…………………..ไปนอริช
รายชื่อผู้เล่นฤดูกาล 2015/16
2 เนธาเนียล ไคลน์ กองหลัง
3 โฆเช่ เอ็นริเก้ กองหลัง
4 โคโล ตูเร่ กองหลัง
6 เดยัน ลอฟเรน กองหลัง
7 เจมส์ มิลเนอร์ กองกลาง
9 ริคกี้ แลมเบิร์ต กองหน้า
10 ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ กองกลาง
11 โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ กองกลาง/กองหน้า
12 โจ โกเมซ กองหลัง
14 จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลาง
15 แดเนียล สเตอร์ริดจ์ กองหน้า
17 มามาดู ซาโก้ กองหลัง
18 อัลเบโต้ โมเรโน่ กองหลัง
20 อดัม ลัลลาน่า กองกลาง
21 ลูคัส เลวา กองกลาง
22 ซิมง มิโญเล่ต์ ผู้รักษาประตู
23 เอ็มเร่ ชาน กองกลาง
24 โจ อัลเลน กองกลาง
26 ติอาโก้ อิลอรี่ กองหลัง
27 ดิว็อค โอริโก้ กองหน้า
28 แดนนี่ อิงส์ กองหน้า
29 ฟาบิโอ บอรินี่ กองหน้า
32 คาเมรอน แบรนนาแกน กองกลาง
33 จอร์ดอน ไอบ์ กองกลาง
34 อดัม บ็อกดาน ผู้รักษาประตู
37 มาร์ติน สเคอร์เทล กองหลัง
38 จอห์น ฟลานาแกน กองหลัง
44 แบรด สมิธ กองหลัง
45 มาริโอ บาโรเตลลี่ กองหน้า
46 จอร์แดน รอสซิเตอร์ กองกลาง
48 เจอโรม ซินแคลร์ กองหน้า
50 ลาซาร์ มาร์โควิช กองกลาง
51 ลอยด์ โจนส์ กองหลัง
53 ชูเอส คาร์ลอส เตเชยร่า กองกลาง
54 เชยี่ โอโจ้ กองกลาง
– คริสติย็อง เบนเตเก้ กองหน้า
ผู้จัดการทีม : เบรนแดน ร็อดเจอร์ส
เชื่อว่าถึงตอนนี้เด็กหงส์ทุกคนย่อมคุ้นเคย และผูกพันกับ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กันเป็นอย่างดีแล้ว และเรื่องที่เขาได้อยู่คุมทีมต่อก็น่าจะเป็นข่าวดีสำหรับทุกคน
ฤดูกาล 2015/16 จะเป็นบททดสอบอันยิ่งใหญ่อีกครั้งสำหรับกุนชื่อชาวไอร์แลนด์เหนือที่พูดทั้งภาษาอิตาเลียนและสแปนิชรายนี้ ซึ่งถ้าหากลิเวอร์พูลยังพลาดซิวตัวแชมเปี้ยนส์ ลีกอีก เจ้าของฉายา “บัค ร็อดเจอร์ส” คงต้องบ๊ายบายเป็นแน่
สตาร์เด่น : จอร์แดน เฮนเดอร์สัน
ให้หลังสิ้นสุดยุคของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด คนที่ก้าวขึ้นมาสืบทอดปลอกแขนกัปตันทีมของเจ้าตัวก็คือ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ผู้นี้นี่เอง
แม้ว่าซัมเมอร์นี้ลิเวอร์พูลจะเลริมทัพมาด้วยสตาร์คับคั่ง แต่ “เฮนโด้” ก็ดูจะโดดเด่นที่สุดในทีมขึ้นมาทันที ในฐานะกัปตันคนใหม่ โดยบทบาทของเขาจะเด่นมากขึ้นเป็นเท่าตัวแน่นอนในซีซั่นหน้า กับการเป็นตัวหลักในแดนกลางเล่นคู่กับ ลูคัส เลวา หรือ โจ อัลเวน แล้วมารอดูมาดของกัปตันเฮนโด้กัน