เก็บมาฝากจากเยอรมัน 2/4/63

คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ ประธานบอร์ดบริหารของค่าย ”เสือใต้”บาเยิร์น มิวนิค วัย 64 ปี ออกมาทุบโต๊ะประกาศไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกเกมการแข่งขันศึกบุนเดสลีกาฤดูกาลปัจจุบัน แม้ว่านาทีนี้การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังไม่ลดน้อยลงก็ตามที

คิง คัลเล่ บอกว่าถ้าหากจําเป็นอาจจะใช้เป็นทางเลือกสุดท้ายก็เป็นไปได้ที่จะแข่งขันกันต่อแล้วไปปิดฤดูกาล 2019/20 ในเดือน กันยายน ที่จะถึงนี้เพื่อที่จะเดินต่อด้วยการเปิดศึกฤดูกาลใหม่ 2020/21 ในช่วงฤดูหนาว

คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ ได้บอกเหตุผลในเรื่องนี้ว่า ถ้าหากว่าปฏิบัติามมาตรการป้องกันเพื่อที่จะไม่ให้ได้รับผลกระทบในเรื่องของสุขภาพและชีวิตของผู้คน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องอันดับ 1 สูงสุด ถ้าหากต้องเดินตามมาตรการตรงนั้นและจําเป็นที่จะต้องยึดเวลาออกไปก็มีความเป็นไปได้ที่จะแข่งขันกันให้จบฤดูกาลเอาตอนช่วงปลายปี

คิง คัลเล่ บิ๊กบอสของทีมแห่งถิ่นอีชาร์ได้ให้ความเห็นของตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์แฟร้งค์เฟิร์ตเตอร์อังเกไมเนอร์โชตุ้งของเยอรมัน ฉบับประจําวันที่ 31 มีนาคม 2020 โดยเขาได้อธิบานรายละเอียดต่อไปอีกว่า ”เรามีความจําเป็นที่จะต้องจัดให้มีการแข่งขันในฤดูกาลนี้จนจบซีซั่นทั้งนี้จากเหตุผลของความแฟร์ด้านการกีฬาและแน่นอนว่าเพื่อที่จะจํากัดในเรื่องผลกระทบด้านการเงินการคลังให้ลดเหลือน้อยที่สุด”

ตาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิเก้ ได้ให้เหตุผลของเขาก่อนที่จะมีการประชุมสมาชิกของเลิกฟุตบอลอาชีพเมืองเบียร์ที่กําหนดเปิดประชุมเพื่อปรึกษาหารือกันในช่วงของวันอังคารที่เมืองแฟร้งค์เฟิร์ต

สําหรับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา โควิด-19 นี้ บาเยิร์น มิวนิค ก็เป็นอีก 1 สโมสรที่ได้รับผลกระทบโดยตรงเนื่องจากว่าต้องงดการแข่งขันที่มีผู้เข้าสนามโดยเกมในบ้านของเสือใต้นั้นมีอีกถึง 6 นัด

บาเยิร์น มิวนิคของเราก็ต้องเจอปัญหาด้ารการเงินการคลังเช่นเดียวกัน ถ้าหากว่าเราไม่สามารถที่จะลงสนามแข่งขันให้ผู้ชมเข้าดูในสนามได้

คิง คัลเล่ ยอมรับว่าแม้ บาเยิร์น มิวนิค จะไม่ลําบาก ไม่เดือนร้อนมากมายนักเมื่อเปรียบเทียบกับทีมระดับกลางหรือทีมระดับเล็กๆเนื่องจากว่าสายป่านด้านการเงินการคลังของทีมแห่งถิ่นอีชาร์นั้นยังสามารถดูแลทุกอย่างได้ในช่วงนี้ แต่จะอย่างไรก็ตามเขาก็ยังต้องระวังในเรื่องของค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะในเรื่องของตลาดซื้อ-ขาย นั้น บาเยิร์น มิวนิค ก็ต้องรอดูท่าทีว่าพัฒนาการข้างหน้านั้นจะเป็นอย่างไร

ตอนนี้ต้องยอมรัวว่าไม่มีใครสามารถล่วงรู้ได้อย่างแท้จริงว่าผลจารการแพร่ระบาดของโ๕วิด-19 นั้น จะยังคงมีอยู่อีกนานเท่าใด ซึ่งอนาคตที่ไม่มีใครสามารถคาดการ์ได้นี้จะต้องระมัดระวังกันเป็นพิเศษ