เกมมันเดย์ไนท์ยูไนเต็ดและอาร์เซนอลก็เท่ากับว่าพรีเมียร์ลีกอังกฤษผ่านแมทที่ 9 ไปแล้ว
เผลอแป๊บเดียวซีซั่น 2019/2020 ก็ผ่านไปเกือบจะ 1 ใน 4 เข้าให้แล้วซึ่งลิเวอร์พูลยังน่าเป็นจ่าฝูงอยู่
แต่การที่พวกเขาทิ้งแมนซิตี้จากแต่แต้มเหลือเป็น 6 แต้มก็เท่ากับว่าลูกน้อง เจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่ได้ลอยตัวเหมือนแต่ก่อนแล้ว
เพราะในทางทฤษฎีแมนซิตี้ชนะรวด 29 นัดที่เหลือพวกเขาก็มีสิทธิ์จะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัย แต่นั้นน้องเป๊ปกวาร์ดิโอล่า ก็ต้องชนะลิเวอร์พูลทั้งเหย้าและเยือน
อย่าไปคิดไกลถึงขนาดนั้นเลยดูกันเป็นนัดไปดีกว่าซึ่งหงส์แดงเสียสติ 100 เปอร์เซ็นต์ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ไปแล้ว
สำหรับเกมฟุตบอลมันเป็นไปไม่ได้หรอกที่คุณจะชนะรวดร้อยเปอร์เซ็นต์ไปจนจบซีซั่นมันต้องมีสะดุดบ้าง
ได้ 1 แต้มก็โอเคแล้วเพราะถ้าไม่มีลูกยิงของอดัมลัลลาน่า ต้องวันนั้นหงส์แดงก็อาจจะแพ้ไปแล้วอย่างน้อย ลิเวอร์พูล ก็มีซีซั่นที่ยังไม่แพ้ใคร
ต้องชมโอเล่กุนนาร์โซลชาร์ ที่สั่งลูกน้องเพรซสูงในครึ่งแรก ทำได้ดีมากๆจนมาได้ประตูขึ้นนำ
ลูกนั้นจังหวะที่ ดิว็อค โอริกี้ โดน วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ เข้าข้างหลัง บอกเลยว่าฟาวล์ แต่ผู้ตัดสิน มาร์ติน แอดกินสัน เลือกที่จะไม่ให้ฟาวล์ และปล่อยให้เล่นต่อจนเป็นประตู
ต่อให้ดู VAR เห็นว่าจังหวะนั้นฟาวล์ ก็กลับมายกเลิกประตู แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้หรอก เพราะ แอดกินสัน เขาปล่อยให้จังหวะ นั้นมันผ่านไปแล้ว มันจบไปแล้วนั่นเอง
ส่วนประตูที่ ซาดิโอ มาเน่ โดน VAR ดูดกลับไปนั้นก็แฮนด์บอลชัดเจน ซึ่งมองว่า VAR นี่ยังต้องมีข้อตกลงกันอีกเยอะเลยที่ต้องปรับปรุงกันไป ช่วงแรกๆ ของการใช้มันก็ต้องมีปัญหาแบบนี้ละ
ก็ต้องถือว่า แมนฯ ยูฯ แสบมาก เพระาดูกัน ตามฟอร์มยังไงก็มองว่าสู้ ลิเวอร์พูล ไม่ได้ แต่นี่แหละ พรีเมียร์ลีกที่ไม่มีแมตช์ไหนแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์หรอกทุกทีมต่างแพ้ชนะกันได้หมด
และอย่าลืมว่าที่โอน แทร็กฟฟอร์ด ก่อนหน้านี้ 6 นัดในทุกรายการ 5 นัดในพรีเมียร์ลีกลิเวอร์พูลมาเยือนแล้วไม่ชนะเลยนี่ก็เป็นนัดที่ 7 เข้าไปแล้ว
จากผลการแข่งขันที่ออกมาและลูกเกมที่เกิดขึ้นมองว่า 1 แต้มของหงส์แดงน่าพอใจกว่ายังไงก็ดีกว่าแพ้แน่นอนละเนาะ
ลิเวอร์พูลมีมากกว่าแมนซิตี้ 6 แต้มแต่ประตูได้เสียเรือใบสีฟ้าดีกว่า 6 ลูกนั่นเท่ากับว่าหงส์แดงน่าอยู่ 5 แต้มขึ้นลุ้นไปยาวๆ
โดย แล็ดโบรกส์ ปรับคาราของ ลิเวอร์พูล จาก 8-13 เป็น 4-5 หั่นราคา แมนฯ ซิตี้ จาก 11-8 เป็น 11-10
โปรแกรมสัปดาห์หน้าคือวันศุกร์มี แมตช์เซาธ์แฮมป์ตัน – เลสเตอร์ ที่เซนต์แมรีส์สเตเดียมน่าจะสนใจว่าจิ้งจอกจะทำได้ดีแค่ไหนเพราะพวกเขาอยู่ในข่ายลุ้นอันดับท็อปโฟร์ด้วย
วันเสาร์เปิดหัวกันด้วยคู่แมนซิตี้ – แอสตันวิลล่า ส่วนรอบ 21:00 น. มีไบตัน – เอฟเวอร์ตัน วัตฟอร์ด – บอร์นมัธ เวสต์แฮม – เซฟฯ ยูไนเต็ด ก่อนจะปิดท้ายด้วยคู่เบิร์นลี่ย์ – เชลซี
วันอาทิตย์หมดกรรมต่ออีก 4 คู่ได้แก่นิวคาสเซิล – วูล์ฟแฮมป์ตัน อาร์เซนอล – คริสตัลพาเลซ ลิเวอร์พูล – สเปอร์ส นอริช – แมนฯ ยูไนเต็ด
เป็นโปรแกรมที่แมนซิตี้ได้เปรียบลิเวอร์พูลลูกน้องเจอร์เก้นคล็อปป์พบกับสเปอร์ที่แอนฟิลด์ก็ไม่ถือว่าง่ายเลย