นิวคาสเซิ่ล

“สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล คือ 1 ในสโมสรใหญ่ของอังกฤษ ที่ติดอันดับ 9 ของทีมที่คว้าแชมป์รายการสำคัญ นับเฉพาะลีกสูงสุด เมื่อพวกเขาเคยเป็นแชมป์ลีกสูงสุด 4 สมัย

แม้เลื่อนขึ้นสู่พรีเมียร์ลีกไม่ทันฤดูกาลแรกแต่ก็ยืนหยัดมาตลอด 16 ฤดูกาลหลังสุด เคยเป็นรองแชมป์ 2 ครั้ง ก่อนหล่อนไปสู่แชมเปี้ยนชิพ เมื่อปี 2009 แต่ใช้เวลาแค่ปีเดียวในการกลับมา

อย่างไรก็ตามซีซั่นก่อน พวกเขาก็ “หวุดหวิดและเกือบ” ที่จะต้องกลับไปใช้ชีวิตในเดอะ แชมเปี้ยนชิพอีกครั้ง

แม้ อลัน พาร์ดิว คือคนที่เคยเข้ามายกระดับทีมให้กลับมาแข็งแกร่งขึ้น แต่สุดท้ายทุกอย่างก็พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาคือคนที่ยัง “ไม่ใช่” สำหรับทีม

ด้วยปัญหาหลายอย่างบวกกับวิกฤติศรัทธาจากแฟนบอล ทำให้พาร์ดิวมีอันต้องกระเด็นตกเก้าอี้ไปเมื่อช่วงหน้าหนาว และไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาใครมารับเผือกร้อนนี้แทน สโมสรจึงต้องมอบหมายภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่นี้ให้กับ จอร์น คาร์เวอร์ มือขวาของพาร์ดิวและคนเก่าแก่ของสโมสรนั่นเอง

สถานการณ์ของสาลิกาดงในมือของคาร์เวอร์ยังคงน่าห่วง แฟนหลายคนเริ่มทำใจ แต่เดชะบุญที่สุดท้ายพวกเขายังรักษาสถานะการเป็นทีมในพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ

แม้คาร์เวอร์จะถือว่ามีส่วนช่วยให้ทีมอยู่รอดแต่ถ้ามองในระยะยาว ต้องยอมรับว่าไม่เหมาะแน่ ต่อให้คนใหม่อย่าง สตีฟ แม็คคลาเรน จะไม่การันตีว่าผลงานของทีมจะดีกว่าในยุคของพาร์ดิว แต่อย่างน้อยก็จะดูดีกว่าที่มีคาร์เวอร์อยู่บนเก้าอี้แน่นอน

สำหรับเป้าหมายในฤดูกาลนี้ ก็คงไม่พ้นอย่ากลับไปมีชะตากรรมเหมือนซีซั่นก่อนก็พอ

คำทำนาย

ลุ้นท็อป 10

ข้อมูลทั่วไป

ก่อตั้ง : 1881

เข้าร่วมลีก : 1892

นิกเนม : เดอะ แม็กพายส์

ประธานสโมสร : ไมค์ แอชลี่ย์

ผู้จัดการทีม : สตีฟ แม็คคลาเรน

สนาม : เซนต์ เจมส์ พาร์ค (เริ่มใช้ 1892 )

ความจุ : 252,000 ที่นั่ง

เกียรติยศ

แชมป์ดิวิชั่น 1 (เดิม) : 1904-05, 1906-07, 1908-09, 1926-27

แชมป์ดิวิชั่น 1 (ใหม่) : 1992-93

แชมป์เอฟเอ คัพ : 1910, 1924, 1932, 1951, 1952, 1955

แชมป์แฟร์ส คัพ : 1968-69

สถิติสโมสร

ดาวซัลโวสูงสุดใน 1 ฤดูกาล : ฮิวอี้ กัลป์ลาเกอร์ 36 ประตู, 1926-27

ดาวซัลโวสูงสุดตลอดฤดูกาล : อลัน เชียเรอร์ 206 ประตู, 1996-2006

ลงเล่นมากที่สุด : จิม ลอว์เรนซ์ 432 นัด, 1904-22

สถิติชนะสูงสุด : 13-0 พบ นิวพอร์ท เคาน์ตี้, ดิวิชั่น 2, 05-10-04-1895

สถิติแพ้สูงสุด : 0-9 พบ เบอร์ตัน วันเดอเรอร์ส, ดิวิชั่น 2, 15-04-1895

สถิติขายนักเตะแพงสุด : 35 ล้านปอนด์ แอนดรูว์ แคร์โรลล์ ไป ลิเวอร์พูล, ม.ค. 2011

สถิติซื้อนักเตะแพงสุด : 16 ล้านปอนด์ ไมเคิ่ล โอเว่นจากเรอัล มาดริด, ส.ค. 2005

อันดับฤดูกาลที่แล้ว : 15

การซื้อ-ขายผู้เล่น ฤดูกาล 2015/16

ย้ายเข้า

จอร์จินโย่ โวนัลดุม (14.5 ล้านปอนด์) …………………จาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น

อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช (13 ล้านปอนด์) …………………จาก อันเดอร์เลชท์

ย้ายออก

ดาวิเต้ ซานตอน (3.26 ล้านปอนด์) …………………ไป อินเตอร์ มิลาน

เรมี่ สตรีท (ฟรี) ………………… ไป พอร์ท เวล

อดัม แคมป์เบลล์ (ฟรี) …………………ไป น็อตต์ส เคาน์ตี้

ไรอัน เทย์เลอร์ (ฟรี) ………………… ไป ฮัลล์ ซิตี้

แซมมี่ อเมโอบี้ (ยืมตัว) …………………ไป คาร์ดิฟฟ์

อดัม อาร์มสตรอง (ยืมตัว) …………………ไป โคเวนทรี

รายชื่อผู้เล่นฤดูกาล 2015/16

1    ทิม ครูล                               ผู้รักษาประตู

2    ฟาบริชิโอ โกลอชชินี่  กองหลัง

6    ไมค์ วิเลียมสัน                      กองหลัง

7    มุสซ่า ซิสโซโก้                     กองกลาง

8    ฟูร์นอน อานิต้า                     กองกลาง

9    ปาปิสส์ เดมบา ซิสเซ่                        กองหน้า

10   เซียม เด ยองก์                      กองกลาง

11   โยอัน กูฟฟร็อง                      กองหน้า

14   แจ็ค โคลแบ็ค                       กองกลาง

16  โรแลนโด้ แอรอนส์                กองกลาง

17   อาโยเซ่ เปเรซ                       กองหน้า

19   มัสซาดิโอ อาอีดาร่า              กองหลัง

20   เรมี่ กาแบลล่า                      กองกลาง

21   ร็อบ เอลเลียต                       ผู้รักษาประตู

22   ดารีล ยันมาต                        กองหลัง

23   ฮาริส วุชคิช                         กองกลาง

24   ชีค ติโอเต้                             กองกลาง

25   กาเบรียล โอแบร์กต็อง            กองกลาง

27   สตีเว่น เทย์เลอร์                    กองหลัง

29   เอ็มมานูแอล ริวิแยร์              กองหน้า

30   เมห์ดี้ อาบีด                         กองกลาง

33   เคอร์ติส กู๊ด                          กองหลัง

36  พอล ดัมเม็ตต์                       กองหลัง

37   ลูโบเมียร์ ซัตก้า                     กองหลัง

38   กาแอล บิกิริมาน่า                 กองกลาง

39   เชน เฟอร์กูสัน                      กองหลัง

–     คาร์ล ดาร์โลว์                       ผู้รักษาประตู

–     เจมาล ลาสเซลล์ส                กองหลัง

–     ซิลแว็ง มาร์กโวซ์                  กองกลาง

–     จอร์จินโย่ ไวนัลดุม                กองกลาง

–     อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช           กองหน้า

ผู้จัดการทีม : สตีฟ แม็คคลาเรน

มีโอกาสจับงานในระดับสูงอีกครั้ง หลังจากเคยคุมมิดเดิ้ลสโบรช์โลดแล่นในพรีเมียร์ลีกระหว่างปี 2001-2006 ก่อนจะไปล้มเหลวไม่เป็นท่ากับงานใหญ่อย่างการคุมทีมชาติอังกฤษ

จากนั้นก็ออกไปผจญภัยต่างแดนกับทั้งเอฟซี ทเวนเต้ และโวล์ฟสบาร์ก ก่อนจะรีเทิร์นสู่บ้านเกิดกับดาร์บี้ เคาน์ตี้

ความสำเร็จส่วนตัวแม้จะน้อยนิด กับแชมป์ลีก คัพกับโบโร่ และ แชมป์ เอเรดิวิชี่ ฮอลแลนด์กับเอฟซี ทเวนเต้ อย่างละครั้ง แต่ในส่วนของประสบการณ์ “บิ๊กแม็ค” ถือว่าเป็นกุนซือที่เก๋าเกมมากคนนึง

หลังเป็นอดีตกับทีมแกะได้ไม่นาน แกก็ได้งานใหม่ทันที เมื่อนิวคาสเซิ่ลติดต่อมาและเซ็นสัญญากัน 3 ปี พร้อมมีอ็อปชั่นขยายเพิ่มเป็น 8 ปีอีกด้วย

การมาของบิ๊กแม็คอาจไม่การันตีว่าจะดีกว่าเมื่อครั้งที่มีพาร์ดิว แต่อย่างน้อยก็คงไม่ทุลักทุเลและต้องดิ้นรนหนักเหมือนช่วงที่มีคาร์เวอร์อยู่เป็นแน่

สตาร์เด่น : มุสซ่า ซิสโซโก้

            มิดฟิลด์ทีมชาติฝรั่งเศส ผู้เป็นหัวใจในแดนกลางของทีม นับตั้งแต่ย้ายมาจากตูลูสเมื่อปี 2013 มักยิงประตูสำคัญๆ ให้ทีมได้ตลอด

อย่างไรก็ตามซีซั่นที่ผ่านมา ศักยภาพของเขาลดลงไปพอสมควร ด้วยปัญหาอาการบาดเจ็บ รวมไปถึงวินัยที่หย่อนยาน จากการโดนใบแดงบ่อยครั้งนั่นเอง

ถึงอย่างนั้น ซิสโซโก้ก็ถือว่ายังเป็นคนสำคัญ จากประตูสำคัญที่ยิงเบิกร่องในเกิดเปิดบ้านชนะเวสต์แฮม 2-0 ซึ่งเป็น 3 แต้มที่การันตีการอยู่รอดของพวกเขา

ทูน อาร์มี่คงต้องภาวนาให้ซิลโซโก้แคล้วคลาดจากอาการบาดเจ็บและการโดนใบแดงเหมือนเมื่อซีซั่นก่อน แล้วทีมจะได้ประโยชน์จากเขาอีกเยอะทีเดียว